DJI Osmo Action กล้องสายลุย จัดเต็มด้วยฟีเจอร์สุดว้าว

เปิดตัวอย่างเป็นทางการ และพร้อมให้เป็นเจ้าของกันแล้ว สำหรับกล้อง Osmo Action จาก DJI ที่ออกแบบมาสำหรับขาลุย หรือผู้ที่ต้องการกล้องประเภทที่สามารถพกพาไปใช้งานได้ทุกสถานการณ์ ใช้บันทึกวิดีโอและถ่ายภาพได้ โดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องสภาพสภาพดินฟ้าอากาศ ไม่ว่าจะเป็นแบบ Indoor หรือว่า Outdoor ก็ตาม

DJI Osmo Action เป็นกล้องขนาดเล็กสไตล์กล้อง Action Cam ซึ่งสามารถติดตั้งเข้ากับอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นหมวก ติดกับตัวหรือว่าไม้เซลฟี่ ซึ่งตัวกล้องจะมีน้ำหนักประมาณ 124 กรัม โดยตัวกล้องออกแบบให้มีความทนทานต่อการสั่นสะเทือน พร้อมกับมีการซีลส่วนประกอบต่างๆ อย่างมิดชิด หมดปัญหาการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เป็นฝุ่นละออง รวมทั้งกล้องยังสามารถใช้งานใต้น้ำที่ระดับความลึก 11 เมตรได้อย่างไม่มีปัญหา หรือในสภาพแวดล้อมที่เย็นจัดก็ยังคงทำงานได้ แม้จะมีอุณหภูมิต่ำถึง -10 องศาเซลเซียส

       

จุดเด่นสำคัญประการหนึ่งของกล้อง DJI Osmo Action ก็คือ ตัวกล้องถูกออกแบบให้มีจอแสดงภาพทั้งที่อยู่ด้านหน้าและด้านหลัง โดยหน้าจอที่อยู่ด้านหลังกล้องจะมีขนาด 2.25 นิ้วและเป็นจอทัชสกรีนที่สามารถเลือกฟังก์ชัน หรือสั่งงานผ่านเมนูของกล้องได้โดยตรงเลย ส่วนหน้าจอที่อยู่ด้านหน้าจะมีขนาด 1.4 นิ้ว และเป็นจอ Live-View ที่แสดงผลแบบ Real-Time ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้กล้องถ่ายเซลฟี่หรือว่าทำ VLOG ได้สะดวกขึ้น หมดปัญหาการหลุดเฟรม และที่สำคัญจอภาพทั้งสองจอนี้ยังมีความสว่างประมาณ 750Cd/m2 ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถมองเห็นภาพบนหน้าจอได้อย่างชัดเจน แม้ว่าจะใช้งานกลางแจ้งเวลาที่มีแสงแดสดจัด

บันทึกเรื่องราวทุกการผจญภัย

กล้อง DJI Osmo Action ใช้เซ็นเซอร์ภาพขนาด 1/2.3 นิ้ว ที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล โดยใช้เลนส์ f/2.8 ที่มีองศารับภาพ 145 องศา ซึ่งเลนส์ดังกล่าวนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยสามารถลดปัญหาแสงจ้า (Glare) และการบิดเบือนของภาพ (Distortion) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ส่วนที่เป็นฝาปิดหน้าเลนส์ ก็ยังมีการเคลือบผิวชนิดพิเศษ เพื่อป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือ คราบน้ำ คราบมันและสิ่งสกปรกต่างๆ ด้วย เพื่อให้ที่ได้มีความคมชัด และพร้อมลุยทุกสถานการณ์

การถ่ายวิดีโอของกล้อง DJI Osmo Action จะได้ภาพความละเอียสูงสุด 4K ที่มีจำนวนภาพสูงสุด 60 ภาพต่อวินาที หรือถ้าบันทึกโดยใช้ความละเอียดแบบ Full HD 1080p หรือแบบ 720p ก็จะได้วิดีโอที่มีจำนวนภาพสูงสุดถึง 240 ภาพต่อวินาที ถ่ายวิดีโอ Full HD แบบสโลโมชั่นได้ช้าสุด 8 เท่า ถ่ายแบบ Timelapse แบบกำหนดเวลาได้ รวมทั้งถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K แบบ HDR ได้ด้วย โดยวิดีโอจะมี Bitrate สูงสุด 100Mb/s ส่วนการถ่ายภาพนิ่งนั้น จะได้ภาพความละเอียดสูงสุด 4,000x3,000 พิกเซล และนอกจากจะเป็นภาพ JPEG ทั่วไปแล้ว ยังสามารถเลือกถ่ายภาพ RAW ได้อีก

และเนื่องจากกล้อง DJI Osmo Action ออกแบบมาใช้งานขณะที่ผู้ใช้กำลังมีการเคลื่อนไหวหรือกำลังทำกิจกรรมอยู่ ดังนั้นภายในกล้องจึงมีการนำกิมบอลแบบ 3 แกนมาใช้ และผสานการทำงานเข้าระบบป้องกันการสั่นไหวแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EIS: Electronic Image Stabilization) เพื่อให้ภาพที่ได้มีคุณภาพและมีลักษณะที่นิ่งสนิทจริงๆ

ออกแบบมาให้พร้อมรับทุกสถานการณ์

กล้อง DJI Osmo Action สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้พื้นฐานจากระบบ Action OS ที่มีการนำระบบเชื่อมต่อกับผู้ใช้ที่ใช้งานง่ายมาผสานรวมเข้ากับปุ่มฟังก์ชัน เพื่อให้เรียกใช้งานและตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกันนี้ยังมีปุ่ม Quick Switch ที่ช่วยให้ผู้ใช้เราสามารถเข้าถึงโหมดการทำงานต่างๆ และสลับการใช้หน้าจอได้อย่างสะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้ด้วยฟีเจอร์ Snapshot ก็ทำให้ผู้ใช้เริ่มต้นถ่ายวิดีโอได้ภายใน 2 วินาทีเท่านั้น

นอกจากการใช้งานกล้องโดยตรงแล้ว กล้อง DJI Osmo Action ยังสามารถควบคุมการทำงานผ่านแอปฯ DJI Mimo จากสมาร์ทโฟนได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นระบบแอนดรอยด์หรือว่า iOS

การบันทึกวิดีโอและภาพ กล้อง DJI Osmo Action จะรองรับการใช้การ์ด microSD ความจุสูงสุด 256GB และการเชื่อมต่อผ่าน WiFi 2 คลื่นความถี่มาตรฐาน 802.11ac รวมถึง Bluetooth LE 4.2 ส่วนแบตเตอรี่ที่ใช้งานกับกล้องจะเป็นแบบลิเธียมโพลิเมอร์ความจุ 1,300mAh ซึ่งเมื่อชาร์จจนเต็มความจุ กล้องสามารถถ่ายวิดีโอ 4K/60fps พร้อมกับเปิดระบบกันสั่นไหว ได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน 63 นาที หรือถ้าถ่ายวิดีโอ 1080p/30fps โดยไม่ใช้ระบบกันภาพสั่นไหวก็จะถ่ายได้นานขึ้นเป็น 135 นาที แต่เมื่อต้องชาร์จแบตเตอรี่ใหม่จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

 

... DJI Osmo Action ถือเป็นกล้อง Action Cam ที่น่าสนใจ ทั้งในเรื่องของคุณสมบัติ ฟังก์ชันและความสามารถในการใช้งาน ในขณะเดียวกันราคาของกล้องก็เป็นเจ้าของกันได้ง่ายๆ เพราะมันไม่ได้แพงอย่างที่คิดเลย

รายละเอียดเพิ่มเติม...https://www.dji.com/osmo-action


Press Release