วิธีปรับ Gear หน่วยความจำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสเถียรภาพการทำงาน

                การรวมคอนโทรลเลอร์หน่วยความจำเข้าไว้กับซีพียู ถือเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าในการออกแบบซีพียูที่อินเทลใช้มาตั้งแต่ซีพียู Intel Core เจนเนอเรชั่นแรกจนถึงปัจจุบัน และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หน่วยความจำของเครื่อง (RAM) กับคอนโทรลเลอร์ในซีพียูก็ถูกกำหนดให้ทำงานด้วยความเร็วเดียวกันมาโดยตลอด นั่นคือไม่ว่าหน่วยความจำจะทำงานด้วยความเร็วเท่าไร คอนโทรลเลอร์ในซีพียูก็จะทำงานด้วยความเร็วนั้นเสมอ

                อย่างไรก็ตามพอมาถึงซีพียูเจนเนอเรชั่น 11 ในชื่อรหัส Rocket Lake การทำงานร่วมกันระหว่างคอนโทรลเลอร์กับหน่วยความจำ DDR4 ก็เริ่มมีตัวเลือกมากขึ้น เมื่อมีการเพิ่มโหมดการทำงานให้เลือกใช้งาน โดยนอกเหนือจากความเร็วที่สัมพันธ์กันแบบ 1:1 แล้ว ยังมีความสัมพันธ์แบบ 1:2 เพิ่มเติมเข้ามา เพื่อให้หน่วยความจำที่มีความเร็วสูงๆ มีเสถียรภาพในการทำงานมากขึ้น

 

ความหมายของ Gear Mode ของหน่วยความจำ

                ความเร็วที่ความสัมพันธ์กันระหว่างคอนโทรลเลอร์(หน่วยความจำ)กับหน่วยความจำของเครื่องที่กล่าวถึงข้างต้นคือสิ่งที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า Gear Mode ของหน่วยความจำ นั่นคือเมื่อคอนโทรลเลอร์ทำงานด้วยความเร็วเดียวกับหน่วยความจำหรือมีความเร็วที่สัมพันธ์กันแบบ 1:1 จะเรียกว่า Gear 1 แต่ถ้าสัมพันธ์กันแบบ 1:2 หรือเมื่อคอนโทรลเลอร์ทำงานด้วยความเร็วเพียงครึ่งหนึ่งของหน่วยความจำจะเรียกว่า Gear 2

                การทำงานทั้ง 2 โหมดข้างต้นต่างก็มีข้อดีเป็นของตัวเอง นั่นคือถ้าเป็น Gear 1 หรือเมื่อคอนโทรลเลอร์ทำงานด้วยความเร็วเดียวกับหน่วยความจำก็คือ หน่วยความจำจะมี Latency ที่ค่อนข้างต่ำ ส่วน Gear 2 จะรองรับการใช้งานหน่วยความจำความสูงได้อย่างมีเสถียรภาพ เนื่องจากคอนโทรลเลอร์ไม่ต้องทำงานหนัก เพียงแต่การทำงานของหน่วยความจำจะมี Latency สูงขึ้น

 

โหมดใดเหมาะกับการใช้งานที่สุด

                แม้ว่า Gear 2 จะเป็นโหมดการทำงานที่มีเสถียรภาพสูงกว่า แต่ถ้าระบบสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นทั้ง 2 โหมดเราสามารถทดสอบดูได้ว่า การตั้งค่าแบบใดจะมีประสิทธิภาพกับการใช้งานของเราที่สุดได้ แต่กฎโดยพื้นฐานทั่วไปก็คือ ยิ่งหน่วยความจำมีความเร็วสูงเท่าใด โอกาสที่การใช้ Gear 2 จะมีประสิทธิภาพดีกว่าการใช้ Gear 1 ก็มีมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ความเร็วที่ต่ำลงยังส่งผลดีทางอ้อมต่อการใช้พลังงานและความร้อนที่เกิดขึ้นกับซีพียูด้วย

                แน่นอนว่า การที่คอนโทรลเลอร์ถูกปรับให้ทำงานด้วยความเร็วเพียงครึ่งหนึ่งของหน่วยความจำ อาจจะทำให้รู้สึกว่าระบบทำงานได้ช้าลง แต่ในทางปฏิบัตินั้น การที่คอนโทรลเลอร์ทำงานด้วยความเร็วเพียงครึ่งเดียวนี้ก็มากเกินพอที่จะรองรับการทำงานของหน่วยความจำที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นหากใช้หน่วยความจำที่มีความเร็วสูง การใช้โหมด Gear 2 ก็กลับทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของระบบเพิ่มขึ้นได้ ตั้งแต่ 1  ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ เพียงแต่มีข้อแม้ว่าการทำงานของแอปพลิเคชันหรือโหลดที่เกิดขึ้นนั้น จะต้องไม่ใช่การประมวลผลแบบ Single-Thread หรือโหลดแกนหลักซีพียูเพียงแกนเดียว

 

วิธีการตั้งค่า Gear Mode หน่วยความจำ

                นอกจากจะมีให้ใช้งานในซีพียู Intel Core เจนเนอเรชั่น 11 ในชื่อรหัส Rocket Lake แล้ว คอนโทรลเลอร์หน่วยความจำในซีพียู Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 Alder Lake ที่รองรับการใช้งานทั้งหน่วยความจำ DDR4 และ DDR5 ก็ยังคงมี Gear Mode ให้เลือกใช้งานเช่นกัน ซึ่งผู้ใช้สามารถตั้งค่าการใช้งานได้ดังนี้

                ให้เข้าไปที่เมนูการตั้งค่าไบออส โดยเสียบปลั๊ก กดปุ่มเปิดเครื่อง แต่ถ้าเปิดใช้งานเครื่องอยู่แล้ว ให้รีสตาร์ทใหม่ โดยในระหว่างที่เครื่องกำลังอยู่ในขั้นตอน POST (Power-On Self Test) หรือก่อนที่ Windows จะเริ่มบูตเครื่อง ให้กดปุ่ม Delete หรือ F2 ซ้ำๆ (ขึ้นอยู่กับเมนบอร์ดที่ใช้งาน) จนกระทั่งมีหน้าจอการตั้งค่าไบออสปรากฎขึ้นมาบนหน้าจอ โดยในตัวอย่างการตั้งค่านี้จะเป็นการใช้เมนบอร์ด Gigabyte Z690 UD DDR4 กับซีพียู Intel Core i7-12700KF โดยใช้หน่วยความจำ DDR4-3600

 

                เมื่อเข้าสู่เมนูการตั้งค่าไบออสแล้ว ให้สลับโหมดการตั้งค่าจาก Easy Mode เป็น Advanced Mode โดยกดปุ่ม F2, F6 หรือ F7 ที่คีย์บอร์ด (ขึ้นอยู่กับเมนบอร์ด) หรือจะใช้เมาส์คลิกที่เมนูที่แสดงอยู่ในหน้าไบออสก็ได้

 

                เมนูการตั้งค่าไบออสภายในหน้า Advanced Mode ของเมนบอร์ดจะแตกต่างกันไปตามผู้ผลิต รวมถึงชื่อเมนูที่ใช้ด้วย แต่ในกรณีของเมนบอร์ด Gigabyte ให้เลือกไปที่แท็บ Tweaker จากรายการที่อยู่ด้านบน แล้วเลือกที่เมนู Extreme Memory Profile (X.M.P) จากนั้นกำหนดค่าที่มีให้เลือกเป็น Profile1 หรือถ้าหน่วยความจำหรือ RAM ที่ใช้มีให้ใช้งานหลาย Profile ก็สามารถเลือกค่าอื่นแทนได้ ขึ้นอยู่กับว่าต้องการประสิทธิภาพและเสถียรภาพระดับไหน (ในตัวอย่างนี้ Profile1 ที่เลือกจะทำให้หน่วยความจำทำงานด้วยความเร็ว 3600MHz และกำหนด Timing ให้เป็น 18-22-22-24 โดยใช้แรงดันไฟ 1.35 โวลต์

 

                หลังจากกำหนด Profile X.M.P. ให้หน่วยความจำแล้ว ให้เลื่อนลงมาที่เมนู Gear Mode ซึ่งโดยปกติจะกำหนดค่าให้เป็น Auto แล้วเลือกเปลี่ยนให้เป็น Gear 1 ถ้าต้องการให้มี Latency ต่ำๆ หรือเลือก Gear 2 ถ้ามุ่งเน้นให้มีเสถียรภาพสูงๆ จากนั้นกดปุ่ม F10 หรือใช้เมาส์คลิกที่เมนู Save & Exit และยืนยันการตั้งค่าที่ทำไปข้างต้น แล้วบูตเครื่องใช้งานตามปกติได้เลย

 

                หลังจากที่ตั้งค่าข้างต้นแล้ว ควรทดสอบการใช้งานโดยเปรียบเทียบกับตั้งค่าอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้เพื่อตรวจสอบว่า การตั้งค่าใดจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และพึงจำไว้ว่า เมื่อใดก็ตามที่ทำการอัปเดตไบออสให้เป็นเวอร์ชันใหม่ หรือเครื่องมีปัญหาจนทำให้ต้องรีเซ็ตไบออสกลับไปเป็นค่าเริ่มต้น จะต้องกลับไปตั้งค่า Gear Mode ของหน่วยความจำใหม่ทุกครั้ง

 

 

รายละเอียดเพิ่มเติม...https://www.thailand.intel.com/content/www/th/th/support/articles/000058859/processors/intel-core-processors.html


TRICKS & HOW TO