Wi-Fi Alliance องค์กรที่ทำหน้าที่กำกับดูแลมาตรฐานการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Wi-Fi ได้ประกาศให้มีการใช้งานมาตรฐานใหม่ ‘Wi-Fi 6E’ ซึ่งจะถูกระบุมาพร้อมกับอุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ ที่มีความสามารถในการส่งผ่านข้อมูลโดยใช้คลื่นความถี่ 6GHz ซึ่งเป็นย่านความถี่สาธารณะที่กำลังจะเปิดให้ใช้ในหลายประเทศทั่วโลก
การส่งผ่านข้อมูลโดยใช้คลื่นความถี่ 6GHz จะทำให้ Wi-Fi 6E เป็นมาตรฐานการส่งผ่านข้อมูลแบบไร้สายที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม โดยมีความหน่วงเวลาต่ำและรองรับการใช้งานของอุปกรณ์ได้มากขึ้น โดย Edgar Figueroa ประธานและ CEO ของ Wi-Fi Alliance กล่าวว่า “การส่งผ่านข้อมูลด้วยคลื่นความถี่ 6GHz จะช่วยตอบสนองความต้องการคลื่นความถี่ Wi-Fi ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการเปิดตัว Wi-Fi 6E ในเวลานี้ก็เพื่อเป็นมาตรฐานการส่งผ่านข้อมูลของอุตสาหกรรมและการใช้งานของผู้บริโภคที่พร้อมใช้งานได้ทันทีเมื่อมีการอนุญาตให้เปิดใช้อย่างเป็นทางการ”
การใช้คลื่นความถี่ 6GHz ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนคลื่น Wi-Fi ได้เป็นอย่างดี โดยมีการจัดช่วงสเปกตรัมที่ต่อเนื่องกัน ทำให้รองรับช่องความถี่ 80MHz ได้เพิ่มเติม 14 ช่องและช่องสัญญาณ 160MHz อีก 7 ช่อง ซึ่งจำเป็นสำหรับแอปพลิเคชันที่จำเป็นต้องใช้แบนด์วิดธ์สำหรับการส่งผ่านข้อมูลที่รวดเร็ว ยกตัวอย่างเช่นการสตรีมวิดีโอความละเอียดสูง และเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) โดยอุปกรณ์ที่รองรับ Wi-Fi 6E จะใช้ประโยชน์จากช่องสัญญาณที่กว้างขึ้นส่งมอบประสิทธิภาพและรองรับการใช้งานได้ดีกว่า แม้ขณะนั้นจะการใช้งานอย่างหนาแน่นก็ตาม
ขณะนี้แม้ว่าคลื่นความถี่ 6GHz จะยังไม่มีใบอนุญาต แต่เมื่อมีการอนุมัติให้ใช้งานอุปกรณ์ Wi-Fi 6E ก็พร้อมได้รับการผลิตออกสู่ตลาดและตอบสนองการใช้งานได้อย่างกว้างขวาง ทั้งสำหรับการเชื่อมต่อใช้งานภายในองค์กร อุปกรณ์ IoT สำหรับการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม รวมไปถึงอุปกรณ์ AR/VR อุปกรณ์สวมใส่ (Wearable) และอุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วย