AI (Artificial intelligence) เทคโนโลยีที่กำลังขยับเข้ามาอยู่ใกล้กับผู้ใช้มากขึ้นเรื่อยๆ และในงาน WWDC24 ที่จัดขึ้นล่าสุดนี้ แอปเปิลก็ได้เผยให้เห็นถึงความสามารถของมันเมื่อนำมาใช้กับอุปกรณ์ต่างๆ ที่รองรับการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 18, iPadOS 18 และ macOS Sequoia ที่กำลังจะออกมาให้อัปเดตกันในเร็วๆ นี้
ความสามารถทางด้าน AI ที่ว่านี้มีชื่อว่า Apple Intelligence ซึ่งแอปเปิลให้ข้อมูลว่า มันถูกพัฒนาขึ้นมาโดยยึดหลัก 5 ประการคือ ทรงพลัง ใช้งานง่าย บูรณาการ เข้าใจผู้ใช้และมีความความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังแตกต่างไปจาก AI ที่ใช้งานทั่วไปอย่างมาก เนื่องจาก Apple Intelligence เป็น AI ที่ไม่ได้ตอบสนองแต่คำสั่ง แต่ยังสามารถเรียนรู้และเข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้ได้อย่างลึกซึ้งด้วย
สิ่งที่อยู่เบื้องหลัง Apple Intelligence ของแอปเปิลก็คือ ChatGPT ของ OpenAI แต่เพื่อให้อุปกรณ์สามารถใช้งานได้หลากหลายขึ้น ในอนาคตก็อาจจะมีการนำ LLM (Large Language Model) อื่นๆ เข้ามารวมด้วยโดยเฉพาะ Gemini ของ Google เพียงแต่ในช่วงแรกนี้จะมุ่งเน้นที่ ChatGPT เป็นหลัก
ความสามารถที่โดดเด่นของพลัง AI Apple Intelligence
Apple Intelligence เป็นความสามารถทางด้าน AI ที่จะถูกรวมเข้ากับแกนหลักของเครื่อง โดยสามารถทำการประมวลผลบนอุปกรณ์ได้โดยตรงเลย แต่อย่างไรก็ดีหากงานหรือคำขอใดที่มีความซับซ้อนมากๆ ข้อมูลต่างๆ จะถูกส่งไปประมวลผลบนระบบคลาวด์ของแอปเปิลที่เรียกว่า Private Cloud Compute ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ออกแบบไว้โดยเฉพาะ มีความปลอดภัยสูง และจะไม่มีการเก็บข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว
Apple Intelligence ทำให้อุปกรณ์ทำงานได้อย่างอัจริยะด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย ซึ่งในที่นี้จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือการจัดการข้อความและภาษา การสร้างสรรค์ภาพ และการปรับปรุง Siri ให้ฉลาดยิ่งกว่าเดิม
การจัดการข้อความและภาษาให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น
เป็นหนึ่งในความสามารถทางด้าน AI มีประโยชน์มาก โดยเฉพาะ Writing Tools ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้เครื่องนี้ช่วยเขียนข้อความต่างๆ ได้ โดยสามารถตรวจทานคำผิด ไวยกรณ์ และเขียนซ้ำใหม่กี่ครั้งก็ได้ เพื่อให้ได้เนื้อหาที่เหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ Writing Tools ยังเป็นเครื่องมือที่สามารถใช้งานกับแอปฯ ต่างๆ ได้เกือบทุกแอปฯ นั่นคือไม่ได้จำกัดการใช้งานอยู่เฉพาะแอปฯ ของแอปเปิลด้วย

นอกจากเครื่องมือสำหรับช่วยเขียนแล้ว Apple Intelligence ยังช่วยจัดการเรื่องต่างๆ ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วยเช่น
- ช่วยจัดลำดับความสำคัญของอีเมล์และการแจ้งเตือน – โดยการแจ้งเตือนที่สำคัญจะถูกดึงมาแสดงบนพื้นที่ด้านบนสุดของกล่องข้อความและกล่องแจ้งเตือน เพื่อให้มองเห็นได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังช่วยสรุปสาระสำคัญของเนื้อหาให้เข้าใจได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องเปิดอ่านด้วย ที่สำคัญคือหากในการแจ้งเตือนนี้ก็จะถูกคัดกรองเฉพาะเนื้อหาที่มีความสำคัญหรือมีความจำเป็นเร่งด่วนเท่านั้น เพื่อลดการรบกวนขณะใช้งานอุปกรณ์
- ช่วยแนะนำคำตอบกลับสั้นๆ โดยอัตโนมัติในอีเมล เพื่อตอบกลับอย่างรวดเร็ว
- ช่วยบันทึกและถอดเสียงเป็นข้อความจากแอปฯ Notes หรือโทรศัพท์
การสร้างสรรค์ภาพสุดอัจฉริยะ
ด้วยความสามารถทางด้าน AI ของ Apple Intelligence จะช่วยให้เราสร้างสรรค์ภาพได้ง่ายขึ้น สนุกขึ้น โดยเฉพาะจาก Image Playground ที่เป็นเครื่องมือสร้างภาพแบบ Text-to-Image ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าเป็น Animation, Sketch หรือว่า Illustration และแทนที่จะต้องพิมพ์บรรยายเป็นข้อความทั้งหมด แอปเปิลก็ยังเตรียมส่วนประกอบและสภาพแวดล้อมต่างๆ ไว้ใช้ใช้งานด้วยระดับหนึ่ง รวมถึงสามารถนำภาพที่มีอยู่มาใช้เป็นต้นแบบได้อีก

นอกจากการสร้างภาพด้วย Image Playground แล้ว Apple Intelligence ยังช่วยให้เราสร้างสรรค์ภาพในลักษณะอื่นๆได้อีกมากมายยกตัวอย่างเช่น
Image Wand – เพียงใช้ Apple Pencil วงรอบภาพร่างที่เป็นแบบคร่าวๆ ที่ต้องการในแอป Notes ภาพนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นภาพที่เกี่ยวข้องที่มีความสมบูรณ์ทันที
Genmoji – สามารถสร้างอิโมจิตามข้อความที่ระบุ หรือใช้ภาพเป็นต้นแบบได้
Memory Movie – สามารถนำภาพหรือวิดีโอต่างๆ ในเครื่องมาสร้างเป็นเรื่องราวตามข้อความที่ระบุ
Search – ค้นหาภาพถ่ายและวิดีโอได้อย่างรวดเร็ว เพียงอธิบายสิ่งที่ต้องการ
Clean Up – ลบวัตถุหรือสิ่งที่ไม่ต้องการออกจากภาพในแอป Photos
Siri ยุคใหม่ฉลาดและมีความเข้าใจมากขึ้น
Siri ที่ได้รับความสามารถทางด้าน AI จาก Apple Intelligence จะมาพร้อมกับรูปโฉมแบบใหม่ ซึ่งเวลาเรียกใช้ (ด้วยเสียง) จะไม่มีไอคอนกลมๆ ปรากฎขึ้นมาบนหน้าจอแล้ว แต่หน้าจอแสดงเป็นกรอบสีรุ้งล้อมรอบ นอกจากนี้ยังรองรับการพิมพ์สั่งการเหมือน Chatbot ซึ่งจะเรียกใช้เมื่อใดก็ได้เพียงแต่แตะที่บริเวณด้านล่างจอ 2 ครั้ง และไม่จำเป็นต้องใช้เสียงพูดเลย

นอกจากจะเรียกใช้งานได้สะดวกขึ้นแล้ว Siri ที่มีพลัง Apple Intelligence ยังมีความสามารถใหม่ๆ มากมาย ยกตัวอย่างเช่น
- เข้าใจลักษณะการพูดของผู้ใช้ และโต้ตอบได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- ให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการใช้งานอุปกรณ์ได้
- สามารถจดจำและอ้างถึงสิ่งที่บอกไปก่อนหน้านี้ได้
- รับรู้ถึงสิ่งที่อยู่บนหน้าจอ และดำเนินการกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ได้อย่างถูกต้อง
- สั่งการข้ามแอปได้อย่างราบรื่น ไม่ยึดติดอยู่กับแอปฯ ที่กำลังใช้งาน
- สามารถรับรู้บริบทและเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ที่อยู่ในเครื่อง

อุปกรณ์ที่รองรับ Apple Intelligence
ดังที่ได้กล่าวไว้ในช่วงต้นว่า Apple Intelligence เป็นความสามารถทางด้าน AI ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 18, iPadOS 18 และ macOS Sequoia ที่จะปล่อยออกมาให้อัปเดตเร็วๆ นี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอุปกรณ์ที่อัปเดตระบบปฏิบัติการใหม่นี้ได้จะใช้ Apple Intelligence ได้เหมือนกันทั้งหมด เพราะในกรณีที่เป็นสมาร์ทโฟนในเบื้องต้นนี้ก็จะมีเพียง iPhone 15 Pro กับ iPhone 15 Pro Max เท่านั้นที่ใช้งานได้ ส่วน iPad และเครื่องแมคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น MacBook, Mac mini และ iMac จะต้องเป็นรุ่นที่ใช้ชิป M1 ขึ้นไป หรือถ้าเป็น Mac Studio ก็ต้องเป็นรุ่นที่ใช้ชิป M1 Max ขึ้นไป
นอกจากเงื่อนไขทางด้านฮาร์ดแวร์แล้ว การใช้ Apple Intelligence ในเบื้องต้นนี้ก็ยังต้องตั้งค่า Siri และภาษาของเครื่องให้เป็นภาษาอังกฤษแบบสหรัฐฯ ด้วย ส่วนภาษาอื่นๆ รวมทั้งภาษาไทยยังต้องติดตามกันต่อไป ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นปีหน้าโน่นเลยถึงจะรองรับการใช้งาน