ผลกระทบที่จะตามมา ถ้าหากติดตั้ง Windows ใช้งานโดยไม่ Activate

              Windows เป็นระบบปฏิบัติการที่มีผู้ใช้กว่า 75% ทั่วโลก โดยมีลิขสิทธิ์การใช้งานให้เลือกหลากหลายรูปแบบ แต่ไม่ว่าจะเป็นลิขสิทธิ์แบบใด หรือเป็น Windows เวอร์ชันไหนก็ตาม หลังจากที่ติดตั้งลงในเครื่องแล้ว จะต้อง Activate เพื่อเปิดใช้งานด้วยเสมอ โดยระบุคีย์ผลิตภัณฑ์หรือ Product Key ที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ที่ซื้อมา แล้วแจ้งไปยังไมโครซอฟท์เพื่อยืนยันว่า เครื่องพีซีนั้นๆ ได้รับอนุญาตให้ใช้งาน Windows อย่างถูกต้อง

              แต่ประเด็นที่ผู้ใช้หลายคนสงสัยก็คือ จะมีปัญหาหรือผลกระทบอะไรหรือไม่ หากเราใช้ Windows โดยไม่ต้องซื้อลิขสิทธิ์เพื่อนำ Product Key ที่เป็นตัวอักษร 25 หลักมา Activate เพราะในการติดตั้งใช้งาน Windows นั้น ไมโครซอฟท์ก็มีเครื่องมือที่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดไปใช้สร้างสื่อสำหรับใช้ติดตั้ง Windows ได้ฟรีๆ

 

ต้อง Activate ภายใน 30 วันหลังติดตั้งใช้งาน

              แน่นอนว่าไฟล์สำหรับการติดตั้ง Windows ที่ไมโครซอฟท์มีให้ดาวน์โหลดบนหน้าเว็บไซต์นั้นเป็นของแท้ และไม่เป็นอันตรายเหมือนกับไฟล์ที่ปล่อยแชร์กันตามอินเทอร์เน็ต ดังนั้นจึงสามารถติดตั้งใช้งานกับเครื่องพีซีได้อย่างปลอดภัย แต่ก็มีเงื่อนไขว่า การใช้งาน Windows อย่างเต็มประสิทธิภาพและการอัพเดตต่างๆ อย่างสมบูรณ์จะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วง 30 วันแรกหลังจากที่ติดตั้งแล้วเท่านั้น จากนั้นจะต้อง Activate เพื่อยืนยันลิขสิทธิ์การใช้งานที่ถูกต้องให้เรียบร้อย

 

ผลที่ตามมา ถ้าไม่ Activate Windows

              อย่างไรก็ดีในการใช้ Windows 10 กับ Windows 11 ที่ยังไม่ได้ทำการ Activate ก็จะมีลักษณะที่ค่อนข้างผ่อนปรนกว่า Windows เวอร์ชันก่อนๆ นั่นคือหลังจากที่ผ่านการใช้งาน 30 วันไปแล้ว ผู้ใช้ยังคงใช้งาน Windows ต่อไปได้ โดยไม่มีการตัดคุณลักษณะที่สำคัญ เพียงแต่จะจำกัดการเข้าถึงที่สำคัญและย้ำเตือนให้ผู้ใช้ทำการ Activate ด้วย 2 สิ่งเหล่านี้

              1. มีลายน้ำ Activate Windows บนหน้าจอ

              หากใช้ Windows 30 วันแล้วยังไม่ทำการ Activate บนหน้าจอจะมีลายน้ำคำว่า Activate Windows แบบโปร่งใสแสดงขึ้นมาที่บริเวณมุมจอด้านล่างฝั่งขวา และไม่ว่าจะเปิดหน้าต่างโปรแกรมขึ้นมาทับ หรือว่าใช้งานโหมด Full Screen ลายน้ำดังกล่าวนี้ก็ยังปรากฎให้เห็นตลอดเวลา

 

              2. มีหน้าต่าง Pop-up แจ้งเตือนเป็นระยะ

              Windows จะเริ่มขัดจังหวะการใช้งานของผู้ใช้ โดยแสดงหน้าต่างข้อความ Your Windows license will expire soon บนหน้าจอตั้งแต่ช่วงเดือนแรกที่ใช้งาน เพื่อย้ำเตือนให้ผู้ใช้ทำการ Activate Windows และเนื่องจากการแสดงหน้าต่างข้อความนี้เป็นการสุ่ม ดังนั้นจะกำลังชมภาพยนตร์ เล่นเกมหรือใช้งานโปรแกรมอะไรก็มีโอกาสถูกขัดจังหวะด้วยหน้าต่างข้อความนี้ทั้งนั้น และถึงแม้ว่าจะปิดหน้าต่างนี้ได้ง่ายๆ แต่การแสดงหน้าต่างนี้จะหายไปก็ต่อเมื่อผู้ใช้ทำการ Activate Windows แล้วเท่านั้น

 

              นอกจากจะรู้สึกรำคาญจากการถูกรบกวนด้วยหน้าต่าง Pop-up และลายน้ำบนหน้าจอแล้ว การไม่  Activate Windows ก็ยังทำให้ผู้ใช้ถูกจำกัดการเข้าถึงที่สำคัญต่างๆ เหล่านี้ด้วย

อัปเดตความปลอดภัยที่สำคัญได้อย่างจำกัด

              นอกเหนือไปจากการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ แล้ว Windows 10 และ Windows 11 ก็ยังมีการอัปเดตความปลอดภัยผ่านระบบ Windows Update เป็นระยะ แต่ในกรณีที่ยังไม่ Activate Windows ที่ใช้อาจถูกปิดการมองเห็น ทำให้การอัปเดตต่างๆ ที่ไมโครซอฟท์ปล่อยออกมา ได้รับไม่ครบทั้งหมด ดังนั้นแม้จะใช้งานได้ แต่ก็จะส่งผลให้เครื่องที่ใช้มีความเสี่ยงทางด้านความปลอดภัยตามมา

 

ไม่ค่อยได้รับ Patch แก้ไข/ปรับปรุงการทำงาน

              ไมโครซอฟท์จะมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของ Windows อยู่เสมอ ในขณะเดียวกันก็แก้ไขข้อบกพร่องและความเข้ากันได้ต่างๆ ที่ถูกตรวจพบ แต่อย่างไรก็ดีการปรับปรุงและแก้ไขด้วย Patch ส่วนใหญ่นั้นก็จะมีให้สำหรับเครื่องที่เปิดใช้งานหรือ Activate Windows แล้วเท่านั้น ดังนั้นหากเครื่องใดยังไม่ได้ Activate Windows ก็อาจจะทำงานได้ไม่ราบรื่นหรือมีปัญหาตามมาได้

 

ถูกปิดกั้นการตั้งค่าการใช้งานส่วนบุคคล

              หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญของ Windows ก็คือ ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนและปรับแต่งการตั้งค่าแสดงผลให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนได้ แต่นั่นเฉพาะ Windows ที่ผ่านการ Activate แล้วเท่านั้น แต่ถ้าไม่ ผู้ใช้ก็จะเข้าถึงตั้งค่าต่างๆ ไม่ได้เลย โดยเฉพาะกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้

              ภาพพื้นหลัง (Wallpaper) – เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ต้องใช้เฉพาะภาพที่มีให้เท่านั้น

              รูปแบบสี (Color Scheme) – กำหนดเองไม่ได้ ต้องใช้ตามที่มีให้เท่านั้น

              หน้าล็อกสกรีน (Lock Screen) – ปรับเปลี่ยนแก้ไขไม่ได้ ต้องใช้ค่าเริ่มต้นของ Windows

              ธีม (Theme) – ปรับเปลี่ยนไม่ได้ ต้องใช้ตามที่มีให้

              เมนูเริ่มต้น (Start Menu) และทาส์กบาร์ (Taskbar) - ปรับแต่ง ตั้งค่าเพิ่มเติมไม่ได้

 

เข้าร่วม Windows Insider Program ไม่ได้

              Windows Insider เป็นโปรแกรมที่ไมโครซอฟท์เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนา Windows รวมทั้งอนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึงการอัปเดตและการใช้งาน Windows รุ่นต่อไปที่กำลังพัฒนาอยู่ แต่การเข้าร่วมโปรแกรมนี้ผู้ใช้จะต้องเปิดใช้งาน Windows แล้วเท่านั้น ซึ่งนั่นหมายความว่าถ้า Windows นั้นยังไม่ได้ทำการ Activate ผู้ใช้ก็จะไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการนี้เลย

 

              จากที่กล่าวไปทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่าการ Activate โดยใช้คีย์ที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ดูเหมือนว่า ไมโครซอฟท์เองก็ไม่ได้บังคับหรือเข้มงวดกับเรื่องนี้มากนัก เพราะหากผู้ใช้ยอมรับกับสภาพการใช้งานที่เลือกไม่ได้ดังใจ ยอมรับความเสี่ยงและข้อจำกัดต่างๆ ดังรายละเอียดข้างต้นได้ ก็สามารถใช้งาน Windows โดยไม่ต้อง Activate ต่อไปได้อย่างไม่มีปัญหา แต่อย่างไรก็ดีหากใครต้องการการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ และไม่มีความเสี่ยง รวมทั้งได้รับการช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ จากไมโครซอฟท์ แนะนำให้ซื้อ Windows ที่มีลิขสิทธิ์ที่ถูกต้องมาใช้ แล้วนำ Product Key มา Activate ให้เรียบร้อยตั้งแต่การติดตั้งใช้งานดีกว่า

              หมายเหตุ: หากต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการ Activate Windows สามารถโทรติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของไมโครซอฟท์ได้โดยตรงที่หมายเลข 02-263-6888 หรือ1800-012-705 กด 1-1-1 (ไม่มีค่าบริการในการติดต่อ) ในวันและเวลาทำการ (วันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.00 -18.00 น.)

 

รายละเอียดเพิ่มเติม...https://support.microsoft.com/en-us/windows/activate-windows-c39005d4-95ee-b91e-b399-2820fda32227


SYNNEXPERIENCE