ดูแลและบริหารจัดการฟอนต์ในเครื่องไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ต้องลำบากให้ใครช่วย

                ฟอนต์หรือรูปแบบของตัวอักษร เป็นสิ่งที่ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows คุ้นเคยกันดี และไม่ว่าจะเป็น Windows 10 หรือ Windows 11 ก็มีให้เลือกใช้มากมาย แต่โดยมากแล้วคนส่วนใหญ่จะรู้ว่าฟอนต์ในเครื่องนั้นมีอะไรบ้าง และแต่ละฟอนต์มีลักษณะรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ก็ต่อเมื่อมีการเปิดโปรแกรมจัดการเอกสารหรือนำมาใช้กับงานของเราแล้ว ทั้งๆ ที่เราสามารถตรวจดู และจัดการกับฟอนต์ต่างๆ ที่มีอยู่ในเครื่องได้ตลอดเวลา โดยผ่านเครื่องมือที่ระบบปฏิบัติการ Windows 10 และ Windows 11 เตรียมไว้ให้ และนี่คือวิธีการง่ายๆ ที่คุณสามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่ารวมไปถึงการลบและติดตั้งฟอนต์ใหม่ๆ ลงในเครื่องด้วย

ตรวจดูฟอนต์ที่ติดตั้งไว้

                ในกรณีที่คุณต้องการทราบว่า ภายในเครื่องมีฟอนต์อะไรที่ใช้งานได้บ้าง ให้เปิด Control Panel โดยพิมพ์ที่ช่องค้นหา จากนั้นเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลของ Control Panel ให้เป็น Icon แล้วเมื่อคลิกเลือกที่ Font Windows ก็จะแสดงฟอนต์ต่างๆ ที่มีอยู่ในเครื่องขึ้นมาให้คุณทราบทั้งหมด ตามลำดับตัวอักษร

ดูลักษณะรูปร่างฟอนต์

                รายชื่อฟอนต์ที่แสดงขึ้นมานี้ คุณสามารถรู้ได้ทันทีว่าฟอนต์นั้นมีลักษณะรูปร่างเพียงแบบเดียว หรือมีหลายรูปแบบ โดยสังเกตได้จากไอคอน กล่าวคือถ้าไอคอนนั้นมีลักษณะเป็น Multiple Page หรือมีหลายๆ หน้าหมายความว่า ฟอนต์ชื่อนั้นอาจมีทั้งตัวปกติ ตัวหนา ตัวเอียงและแบบอื่นๆ โดยเมื่อดับเบิลคลิกไปที่ไอคอนนั้นจะเป็นการเปิดดูรูปแบบฟอนต์ที่มีให้ใช้ ซึ่งถ้าต้องการทราบว่า มันมีลักษณะรูปร่างอย่างไรก็เพียงแค่ดับเบิลคลิกที่ไอคอนฟอนต์ที่ต้องการเท่านั้น

                ข้อสังเกตอีกอย่างคือ ในกรณีที่เป็นฟอนต์ภาษาไทย ที่ไอคอนจะมีตัวอักษร กคฏ แสดงอยู่อยู่ด้วยเสมอ แต่อย่างไรก็ดีเวลาที่เปิดดูลักษณะรูปร่างของฟอนต์ใดๆ นั้น จะมีแต่ภาษาอังกฤษกับตัวเลขอารบิคขนาดต่างๆ เท่านั้น

                หมายเหตุ - ถ้าต้องการดูฟอนต์ที่มีหลายๆ แบบพร้อมกัน ให้คลิกที่ไอคอนฟอนต์ที่ต้องการดูแล้วคลิกที่ Preview (ทำได้ทั้งใช้คำสั่งที่แถบเมนูด้านบน และคลิกขวาที่ไอคอนฟอนต์)

ซ่อนฟอนต์ที่ไม่ต้องการ

                สำหรับฟอนต์ที่ไม่ได้ใช้งาน คุณสามารถซ่อนไม่ให้โปรแกรมหรือแอปฯ โหลดขึ้นมาได้ โดยคลิกขวาที่ฟอนต์แล้วเลือก Hide รวมทั้งซ่อนฟอนต์ต่างๆ ที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานของเราโดยอัตโนมัติได้ โดยเลือกที่เมนู Font settings แล้วเลือก Hide fonts based on language settings และคลิก OK

                การซ่อนฟอนต์นี้ โดยมากแล้วจะใช้ได้ผลกับโปรแกรมหรือแอปฯ ที่ Windows มีมาให้เท่านั้น ส่วนโปรแกรมที่ติดตั้งเพิ่มใหม่และมีการสร้างเมนูฟอนต์ของตัวเองอย่าง Microsoft Office จะไม่มีผล

ลบฟอนต์

                ถ้ามั่นใจแล้วว่าฟอนต์ที่มีอยู่นั้นไม่ได้ใช้งานอีกต่อไปแล้ว คุณสามารถลบออกไปจากเครื่องได้เลย เพียงแค่คลิกขวาที่ฟอนต์ที่ไม่ต้องการแล้วเลือก Delete และยืนยันด้วยการตอบ Yes เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม การลบฟอนต์ในลักษณะข้างต้นนี้ จะทำได้เฉพาะฟอนต์ที่ไม่มีการป้องกันการถูกลบเท่านั้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นฟอนต์ที่เราติดตั้งใหม่ หรือถูกเพิ่มเข้ามาโดยโปรแกรมที่ใช้งาน

สำรองฟอนต์เก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน

                ก่อนจะทำการลบฟอนต์ใดๆ ออกจากเครื่อง เราสามารถเก็บสำรองฟอนต์ต่างๆ ไว้ใช้ในอนาคตหรือเมื่อเครื่องมีปัญหาได้ เพียงแค่คลิกขวาที่ฟอนต์ที่ต้องการ (หรือถ้าต้องการหลายๆ ฟอนต์ก็คลิกเลือกเหมือนกับการเลือกไฟล์ทั่วๆ ไป) แล้วเลือก Copy จากนั้น Paste ลงในโฟลเดอร์ที่ต้องการนำฟอนต์ไปเก็บไว้เท่านั้นเอง ซึ่งไฟล์ของฟอนต์ที่เราใช้ส่วนใหญ่จะมีส่วนขยายหรือนามสกุล .TTF กับ .OTF

ติดตั้งฟอนต์ใหม่เพิ่มเติม

                ถ้าจำเป็นต้องนำฟอนต์ที่เก็บสำรองไว้มาใช้อีกครั้ง หรือมีฟอนต์ใหม่สำหรับใช้กับโปรแกรมต่างๆ ไม่ว่าจะโหลดฟรีหรือเสียเงินซื้อ คุณสามารถติดตั้งลงในเครื่องได้ตลอดเวลาที่ต้องการ เพียงแค่เลือกฟอนต์ที่ต้องการในโฟลเดอร์ที่เก็บฟอนต์ต่างๆ เอาไว้ คลิกขวาแล้วเลือก Install หรืออีกวิธีที่ทำได้ง่ายๆคือ คัดลอกฟอนต์ที่ต้องการไปไว้ในโฟลเดอร์ C:\Windows\Fonts

จัดการฟอนต์ด้วยเครื่องมือใน Windows

                นอกจากการจัดการฟอนต์ด้วย Font Applet ใน Control Panel แล้ว ในระบบปฏิบัติการ Windows 10 และ Windows 11 ยังสามารถเลือกจัดการฟอนต์โดยใช้เครื่องมือในเมนูการตั้งค่าได้อีก และการเข้าถึงเครื่องมือนี้ทำได้โดยไปที่ Setting แล้วเลือก Personalization และ Fonts ตามลำดับ

                เมื่อเปิดเครื่องมือนี้ขึ้นมาแล้ว เราสามารถตรวจดูฟอนต์ทั้งหมดที่มีอยู่ในเครื่องได้ทันที และถ้าหากต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับฟอนต์ใดๆ เพิ่มเติมก็ให้คลิกที่ชื่อฟอนต์นั้น

                ในหน้ารายละเอียดฟอนต์ที่ถูกแสดงขึ้นมา เราสามารถตรวจดูได้ว่าฟอนต์นั้นมีลักษณะตัวอักษรอย่างไรบ้าง และถ้าต้องการก็สามารถพิมพ์ข้อความบางอย่างลงในช่อง Type here to preview font แล้วเลื่อนแถบปรับขนาดฟอนต์เพื่อตรวจดูความแตกต่างของฟอนต์แต่ละลักษณะได้

                ที่ส่วนล่างของหน้าแสดงรายละเอียดฟอนต์นี้จะมีข้อมูลต่างๆ ของฟอนต์แสดงไว้อย่างละเอียด ซึ่งถ้าคิดว่าไม่ต้องการใช้ฟอนต์นี้อีกต่อไปแล้ว ก็สามารถคลิกที่ปุ่ม Uninstall แล้วยืนยันเพื่อลบฟอนต์ออกจากเครื่องได้ทันที

                ที่หน้าหลักของเครื่องมือจัดการฟอนต์ จะมีลิงก์สำหรับเข้าไปยัง Microsoft Store เพื่อดาวน์โหลดฟอนต์มาใช้งานเพิ่มเติม โดยที่เราสามารถติดตั้งฟอนต์นั้นจาก Microsoft Store ได้โดยตรงเลย แต่โดยมากฟอนต์ที่มีก็มักจะเป็นฟอนต์ภาษาอังกฤษเป็นหลัก

                แน่นอนว่า เราสามารถหาดาวน์โหลดฟอนต์จากเว็บไซต์ต่างๆ มาใช้งานก็ได้ หรือถ้ามีไฟล์ของฟอนต์อยู่แล้ว เราสามารถติดตั้งฟอนต์นั้นเข้ากับเครื่องโดยใช้เครื่องมือนี้ได้ง่ายๆ เลย เพียงเปิดโฟลเดอร์ที่เก็บฟอนต์จากสื่อ แล้วลากไฟล์ .TTFมาวางบริเวณพื้นที่ Add fonts ในเครื่องมือ ฟอนต์ที่ลากมาวางนั้นก็จะถูกติดตั้งลงในเครื่องโดยอัตโนมัติ

                จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่าการจัดการฟอนต์ในเครื่องพีซีที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 และ Windows 11 ไม่ว่าจะใช้ Font Applet ใน Control Panel หรือว่าทำผ่านเครื่องมือที่ Windows มีให้ ต่างก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก ทุกคนทำได้ ไม่ต้องลำบากให้ใครช่วยอย่างแน่นอน

 

รายละเอียดเพิ่มเติม...https://docs.microsoft.com/en-us/typography/


TRICKS & HOW TO