เมื่อซื้อเมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆ ไม่ว่าจะใช้กับซีพียูอินเทลหรือเอเอ็มดี ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่าที่บริเวณพอร์ตเชื่อมต่อที่อยู่ด้านหลังของเมนบอร์ดบางรุ่นจะมีปุ่มเล็กๆ หน้าตาแปลกๆ พร้อมกับข้อความ Flash BIOS Button หรือบางแบรนด์ก็ใช้คำว่า BIOS FLBK รวมอยู่ด้วย พร้อมกันนี้พอร์ต USB ที่อยู่ข้างๆ ก็ยังมีการทำสัญลักษณ์บนแผ่นปิดหลังเครื่อง เพื่อบอกให้รู้ว่า USB พอร์ตนั้นมีไว้เพื่อใช้งานบางอย่าเพิ่มเข้ามาอีก
สิ่งที่เห็นนี้คือฟีเจอร์ที่เรียกว่า BIOS Flashback ซึ่งผู้ผลิตนำมารวมไว้กับเมนบอร์ดเพื่อให้ผู้ใช้สามารถอัพเดตหรือแฟลชไบออสได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องประกอบเป็นเครื่องขึ้นมาก่อน แต่คำถามที่คุณอาจจะสงสัยก็คือ ทำไมเราต้องแฟลชไบออสด้วยฟีเจอร์นี้ ในเมื่อภายในไบออสก็มีเครื่องมือให้ใช้อัพเดตอยู่แล้ว
ฟีเจอร์ BIOS Flashback มีไว้เพื่อ?
โดยปกติเมื่อมีการผลิตซีพียูรุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาด การนำมาใช้งานกับเมนบอร์ดที่มีอยู่เดิมมักจะต้องทำการอัพเดตไบออสให้รองรับซีพียูเหล่านั้นก่อนเสมอ ซึ่งในกรณีที่มีซีพียูที่ใช้กับเมนบอร์ดอยู่แล้ว การอัพเดตไบออสให้รองรับซีพียูรุ่นใหม่ก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก แต่สำหรับผู้ที่ซื้อซีพียูกับเมนบอร์ดใหม่ และบังเอิญว่าไบออสของเมนบอร์ดนั้นไม่รองรับซีพียูที่ซื้อมา กรณีนี้จำเป็นต้องพึ่งฟีเจอร์ BIOS Flashback ของเมนบอร์ดเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะต้องนำเมนบอร์ดที่ซื้อมาไปให้ร้านค้าหรือผู้ที่มีซีพียูที่ใช้งานได้อัพเดตให้ หรือไม่ก็ต้องหาซีพียูที่ใช้งานกับเมนบอร์ดมาใช้ชั่วคราวก่อน เพื่ออัพเดตไบออสด้วยตัวเอง
ตัวอย่างที่เห็นได้จากการใช้การใช้ฟีเจอร์ BIOS Flashback นี้ก็คือ การใช้ซีพียู AMD Ryzen 5000 Series กับเมนบอร์ดซ็อกเก็ต AM4 ที่ใช้ชิปเซ็ต AMD 450 หรือแม้แต่รุ่นที่ใช้ชิปเซ็ต B550 และ X570 บางครั้งก็ยังอาจจะต้องอัพเดตหากต้องการใช้ซีพียู Ryzen 5600G หรือ 5700G ที่ออกมาใหม่ แม้ว่าบนกล่องเมนบอร์ดจะมีสติ๊กเกอร์ที่ระบุว่า AMD RYZEN 5000 DESKTOP READY ก็ตาม เพราะโดยทั่วไปแล้วผู้ใช้ไม่มีโอกาสรู้ได้เลยว่า ไบออสของเมนบอร์ดที่ซื้อมานั้นเป็นเวอร์ชันอะไรหรือเป็นเวอร์ชันล่าสุดหรือยัง
ปัจจุบันฟีเจอร์นี้สามารถพบได้จากเมนบอร์ดทุกแบรนด์ทั้ง ASUS, ASRock, Gigabyte และ MSI เพียงแต่ไม่ทุกรุ่น และผู้ผลิตแต่ละรายก็มีชื่อเรียกที่ต่างกันไป เพราะในขณะที่ ASUS เรียกฟีเจอร์นี้ว่า BIOS Flashback แต่ Gigabyte จะเรียกว่า Q-Flash Plus ส่วน MSI BIOS Flashback+ หรือถ้าเป็น ASRock ก็จะเรียกฟีเจอร์นี้ในชื่อ BIOS Flashback Button แต่ไม่ว่าจะเรียกว่าอย่างไร ขั้นตอนและวิธีการใช้งานก็เหมือนกันเกือบทุกอย่าง แตกต่างกันเพียงแค่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น และทั้งหมดก็ยังสามารถเลือกอัพเดตโดยใช้เครื่องมือ*ที่มีอยู่ในไบออสได้ตามปกติ
*ASUS อัพเดตด้วย EZ Flash, Gigabyte อัพเดตด้วย Q-Flash, MSI อัพเดตด้วย M-Flash และ ASRock อัพเดต Instant Flash
เตรียมแฟลชไดรฟ์ และไฟล์ไบออสให้พร้อมก่อน
แม้ว่าเมนบอร์ดที่มีฟีเจอร์นี้จะอัพเดตไบออสได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีซีพียู แต่ผู้ใช้ก็ต้องมีไฟล์ไบออสสำหรับใช้อัพเดตด้วย ทำให้ผู้ที่ยังไม่มีเครื่องคอมฯ หรือโน้ตบุ๊กใช้งานต้องวางแผนให้ดี โดยอาจจะให้เพื่อหรือคนรู้จักที่มีคอมฯ เตรียมให้ หรือใช้คอมฯ จากที่ทำงาน (ถ้าทำได้) หรือไม่ก็อาจจะต้องไปใช้บริการร้านอินเทอร์เน็ต เพราะไฟล์ไบออสนี้จะต้องดาวน์โหลดจากเว็บไซต์จากผู้ผลิตเมนบอร์ดเท่านั้น
เมื่อเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ผู้ผลิตแล้ว ให้ค้นหาเมนบอร์ดรุ่นที่ใช้อยู่แล้วเลือกที่เมนู Support หรือสนับสนุน และเลือกที่เมนู BIOS แล้วดาวน์โหลดไฟล์ไบออสเวอร์ชันล่าสุดมาไว้ในเครื่อง ซึ่งถ้าไม่แน่ใจเรื่องตัวเลขเวอร์ชัน แนะนำให้ดูวันที่ที่ผู้ผลิตแจ้งไว้ประกอบด้วย และควรหลีกเลี่ยงไบออสที่ยังเป็นเวอร์ชัน Beta หรือเวอร์ชันที่กำลังทดสอบอยู่
หลังจากที่ดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ให้แตกไฟล์ที่ดาวน์โหลดและคัดลอกไฟล์ไบออสมาไว้ในแฟลชไดรฟ์ USB แล้วเปลี่ยนชื่อ (Rename) ไฟล์ไบออสใหม่ดังนี้
สำหรับไฟล์ไบออสที่ใช้กับเมนบอร์ด Gigabyte ให้เปลี่ยนชื่อไฟล์เป็น GIGABYTE.BIN
เมนบอร์ด MSI ให้เปลี่ยนชื่อไฟล์ไบออสเป็น MSI.ROM
และเมนบอร์ด ASRock ให้เปลี่ยนชื่อไฟล์เป็น CREATIVE.COM
ส่วนเมนบอร์ดของ ASUS นั้น การเปลี่ยนชื่อไฟล์ไบออสจะต้องทำผ่านโปรแกรม BIOSRenamer ที่ดาวน์โหลดมาพร้อมกับไฟล์ไบออส โดยคัดลอกมาไว้ในแฟลชไดรฟ์แล้วดับเบิลคลิกเพื่อให้เปลี่ยนชื่อไฟล์ไบออส อย่างเช่นในกรณีของเมนบอร์ด ROG STRIX B550-F GAMING ไฟล์ไบออส ROG-STRIX-B550-F-GAMING-WIFI-ASUS-2423 ที่ดาวน์โหลดมาจะเปลี่ยนชื่อเป็น RB550FGW.CAP
ชื่อไฟล์ไบออสที่เปลี่ยนใหม่นี้จะใช้ตัวพิมพ์เล็กหรือพิมพ์ใหญ่ก็ได้ แต่แฟลชไดรฟ์ USB ที่ใช้จะต้องฟอร์แมตโดยใช้ระบบไฟล์แบบ FAT32 เท่านั้น
อัพเดตไบออสด้วยฟีเจอร์ BIOS Flashback
แม้การแฟลชไบออสด้วยฟีเจอร์ BIOS Flashback ไม่จำเป็นต้องติดตั้งซีพียูหรือหน่วยความจำเข้ากับเมนบอร์ด แต่ก็ต้องใช้ไฟฟ้ากระแสตรงจากพาวเวอร์ซัพพลาย ซึ่งก็ไม่มีอะไรยุ่งยากเพียงแค่เชื่อมต่อปลั๊กแบบ 24 พินและปลั๊กแบบ 8 พินเข้ากับเมนบอร์ดที่จะอัพเดตไบออส เสร็จแล้วนำแฟลชไดรฟ์ที่มีไฟล์ไบออสเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ต USB ที่ระบุว่า Flash BIOS เปิดสวิทช์พาวเวอร์ซัพพลายแล้วกดปุ่ม Flash BIOS หรือ BIOS FLBK ที่อยู่ข้างๆ เพื่อเริ่มแฟลชไบออสได้เลย (เมนบอร์ด ASUS จะต้องกดค้างไว้ประมาณ 3 วินาที)
หลังจากกดปุ่มแฟลชไบออสแล้ว เมนบอร์ดจะเริ่มทำการอัพเดตไบออสโดยใช้ไฟล์ที่อยู่ในแฟลชไดรฟ์ โดยจะใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีขึ้นอยู่กับไบออส ซึ่งในระหว่างนี้ไฟ LED บนเมนบอร์ดจะกระพริบเตือนให้รู้ว่ากำลังทำงาน และจะดับลงเมื่อการอัพเดตไบออสเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เพียงเท่านี้เมนบอร์ดก็พร้อมสำหรับนำไปใช้งานกับซีพียูรุ่นใหม่ๆ แล้ว
คำแนะนำ: ควรอัพเดตไบออสเฉพาะเมื่อจำเป็น
ถ้าเครื่องพีซีที่คุณใช้อยู่ ทำงานได้ตามปกติ หากต้องการอัพเดตไบออสให้เป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุด ขอให้หลีกเลี่ยงการใช้ฟีเจอร์ BIOS Flashback แต่ให้อัพเดตโดยใช้เครื่องมือที่มีอยู่ในไบออส (*) และขอให้ทำเฉพาะเมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้น เช่นเมื่อต้องการเพิ่มฟีเจอร์บางอย่าง หรือปรับปรุงให้เครื่องมีเสถียรภาพดีขึ้น และควรทำอย่างระมัดระวัง เพราะหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมาจากการใช้ไฟล์ไบออสที่ไม่ถูกต้อง แฟลชไดรฟ์มีปัญหาหรือว่าเกิดไฟฟ้าดับระหว่างการอัพเดต เมนบอร์ดอาจมีปัญหาตามมาได้