• ปี 2531
    บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จํากัด (มหาชน) ผู้ดําเนินธุรกิจค้าส่งอุปกรณ์เครื่องเขียน กระดาษสํานักงาน รวมทั้ง วัสดุอุปกรณ์และของใช้สิ้นเปลืองทางด้านคอมพิวเตอร์ ได้จัดตั้ง บริษัท คอมเพ็ค (ประเทศไทย) จํากัด เพื่อประกอบธุรกิจนําเข้าและจัดจําหน่ายคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ และระบบสารสนเทศ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2531 ทุนจดทะเบียนและชําระแล้วเริ่มต้น 1,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจํานวน 10,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 100 บาท
  • ปี 2533
    • วันที่ 4 เมษายน 2533 บริษัทฯ ดําเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนและชําระแล้วจากเดิม 1,000,000 บาท เป็น 2,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 100 บาท
    • บริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจําหน่ายที่ได้รับอนุญาตของผลิตภัณฑ์ Hard Disk ของ Seagate ในประเทศไทย
  • ปี 2534
    วันที่ 16 กรกฎาคม 2534 บริษัทฯ ดําเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนและชําระแล้วจากเดิม 2,000,000 บาท เป็น 8,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 100 บาท
  • ปี 2535
    วันที่ 2 เมษายน 2535 บริษัทฯ ดําเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนและชําระแล้วจากเดิม 8,000,000 บาท เป็น 12,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 100 บาท
  • ปี 2537
    วันที่ 21 มีนาคม 2537 บริษัทฯ ดําเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนและชําระแล้วจากเดิม 12,000,000 บาท เป็น 20,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 100 บาท และได้ดําเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนและชําระแล้วอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2537 เป็น 40,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 100 บาท
  • ปี 2539
    • วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2539 บริษัทฯ ได้ก่อตั้งบริษัท พริซึ่ม โซลูชั่นส์ จํากัด ทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 2,000,000 บาท มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียนและชําระแล้ว เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการด้านการอบรมโปรแกรมคอมพิวเตอร์ชั้นสูง ติดตั้งและบํารุงรักษาระบบคอมพิวเตอร์
    • วันที่ 13 พฤษภาคม 2539 บริษัทฯ ดําเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนและชําระแล้วจากเดิม 40,000,000 บาท เป็น 50,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 100 บาท
  • ปี 2540
    • วันที่ 26 มีนาคม 2540 บริษัทฯ ดําเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนและชําระแล้วจากเดิม 50,000,000 บาท เป็น 100,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 100 บาท
    • บริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจําหน่ายที่ได้รับอนุญาตของทุกสายผลิตภัณฑ์ของ Intel ในประเทศไทย
  • ปี 2541
    • วันที่ 24 มิถุนายน 2541 บริษัทฯ ดําเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนและชําระแล้วจากเดิม 100,000,000 บาท เป็น 135,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 100 บาท
    • บริษัทฯ ได้ทําการเปิดสาขาต่างจังหวัดแห่งแรก ที่จังหวัดขอนแก่น
  • ปี 2542
    • บริษัท ซินเน็ค เทคโนโลยี อินเตอร์เนชั่นแนล จากประเทศไต้หวัน ผู้จัดจําหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศรายใหญ่ของโลก ได้เข้าร่วมลงทุนในสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 49 เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2542 บริษัทฯ ได้ดําเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนและชําระแล้วจากเดิม 135,000,000 บาท เป็น 180,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท
    • วันที่ 22 มิถุนายน 2542 บริษัทฯ ได้ดําเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนและชําระแล้วของ บริษัท พริซึ่ม โซลูชั่นส์ จํากัด เป็น 8,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 100 บาท
    • วันที่ 27 ตุลาคม 2542 บริษัทฯ ดําเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนและชําระแล้วเป็น 260,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 100 บาท
  • ปี 2545
    • วันที่ 1 มีนาคม 2545 บริษัทฯ ดําเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนและชําระแล้วจากเดิม 260,000,000 บาท เป็น 300,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 100 บาท
    • บริษัท คอมเพ็ค (ประเทศไทย) จํากัด ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จํากัดและย้ายสํานักงานใหญ่พร้อมศูนย์ขนส่งและกระจายสินค้าแห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่ถนนสุคนธสวัสดิ์ เลียบทางด่วนรามอินทรา โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการกระจายสินค้า ได้รับการถ่ายทอดจากกลุ่มผู้ถือหุ้นบริษัทซินเน็ค ประเทศไต้หวัน
  • ปี 2546
    วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2546 บริษัทฯ ดําเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนและชําระแล้วจากเดิม 300,000,000 บาท เป็น 340,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 100 บาท
  • ปี 2547
    • วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2547 บริษัทฯ ดําเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนและชําระแล้วจากเดิม 340,000,000 บาท เป็น 500,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ100 บาท
    • บริษัทฯ ได้รับใบรับรองตามมาตรฐานสากล ISO 9001:2000 ระบบการบริหารงานคุณภาพ จาก บูโร เวอริทัส เซอทิฟิเคชั่น ด้านการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์แบบสั่งประกอบ และบริการหลังการขาย
  • ปี 2548
    บริษัท พริซึ่ม โซลูชั่นส์ จํากัด ได้ขายหุ้นทั้งหมดที่ถือในบริษัท ซีนิธคอมพ์ จํากัด ซึ่งประกอบธุรกิจจําหน่ายซอฟท์แวร์ ออกแบบวางระบบคอมพิวเตอร์ ให้คําปรึกษาและฝึกอบรมบุคลากรเกี่ยวกับซอฟท์แวร์ คืนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่ราคาตามบัญชี ซึ่งเดิมบริษัทย่อยถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 25 ของทุนชําระแล้ว
  • ปี 2549
    บริษัทฯ ได้เริ่มนําระบบ Automatic Storage and Retrieval System (ASRS) การบริหารคลังสินค้าแบบอัตโนมัติ ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดําเนินงาน ระบบดังกล่าวได้ติดตั้งแล้วเสร็จในปี 2550
  • ปี 2550
    • วันที่ 24 กรกฎาคม 2550 บริษัทฯ ได้รับใบรับรองตามมาตรฐานสากล ในด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001:2004 จาก บูโร เวอริทัส เซอทิฟิเคชั่น
    • ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2550 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2550 มีมติพิเศษให้แปรสภาพบริษัทเป็นบริษัทมหาชนและมีมติอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ จากเดิมมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 1 บาท และมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จํานวน 205,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่ จํานวน 205,000,000 หุ้น และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จํานวน 180,000,000 หุ้น เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จํากัด (มหาชน) ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Pre-emptive Right) จํานวนไม่เกิน 57,000,000 หุ้น และเสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก จํานวน 123,000,000 หุ้น รวมทั้งจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จํานวน 25,000,000 หุ้น รองรับการใช้สิทธิตามใบสําคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ที่จะออกและเสนอให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทฯ
    • บริษัทฯ ได้จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2550 และเปลี่ยนชื่อ จากเดิม บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จํากัด เป็น บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน)
  • ปี 2551
    บริษัทฯ ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเปิดทําการซื้อขายให้กับนักลงทุนวันแรกในวันที่ 16 มิถุนายน 2551
  • ปี 2552
    บริษัทฯ ได้ลงทุนก่อสร้างอาคารสํานักงานใหม่เพิ่มอีก 1 อาคาร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ สร้างเสร็จและเปิดใช้งานในไตรมาสที่ 2 ปี 2553 อีกทั้ง บริษัทฯ ได้ดําเนินกิจการครบรอบ 20 ปี จึงจัดตั้งโครงการห้องสมุดไอทีเพื่อพัฒนาการศึกษาไทย (Library IT by Synnex) เพื่อส่งมอบอุปกรณ์ไอทีแก่โรงเรียน 20 โรงเรียนทั่วประเทศที่ผ่านเกณฑ์คัดเลือก
  • ปี 2553
    • บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกให้เข้าชิงรางวัลและเข้ารอบสุดท้าย ของสาขารางวัลบริษัทจดทะเบียนดีเด่นด้าน CSR ประจําปี 2553 ในกลุ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดไม่เกิน 10,000 ล้านบาท ในงาน SET AWARD 2010 จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
    • บริษัทฯ ได้ขยายเพิ่มธุรกิจโดยได้เป็นผู้แทนจําหน่ายสินค้าสมาร์ทโฟนอย่างเป็นทางการ จําหน่ายให้กับผู้ประกอบการ สินค้าเริ่มแรกในกลุ่มเป็นสมาร์ทโฟนตราสินค้า HTC และในปี 2554 บริษัทฯ ได้ขยายการเป็นตัวแทนจัดจําหน่ายตราสินค้าและกลุ่มสินค้าการสื่อสารอื่นๆ เพิ่มขึ้น
  • ปี 2555
    บริษัทฯ ได้รับรางวัล Most Improved CSR ประเภทกลุ่มบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดไม่เกิน 10,000 ล้านบาทเป็นรางวัลบริษัทจดทะเบียนที่กําหนด วิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ นโยบายด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจนสอดคล้องกับการดําเนินธุรกิจ จัดโดยสถาบันธุรกิจเพื่อสังคม (CSRI) ภายใต้การดําเนินงานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในงานมอบรางวัล CSR Recognition 2012 เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2555
  • ปี 2556
    • ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจําปี 2556 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2556 มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทฯ โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จํานวนไม่เกิน 95,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท รองรับการจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นสามัญใหม่ ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิเรื่องทุนจดทะเบียนบริษัทฯ จากเดิม 705,000,000 บาท เป็น 800,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท
    • บริษัทฯ ได้รับรางวัล CSR Recognition 2013 ประเภทรางวัลทั่วไป เป็นรางวัลมอบให้แก่บริษัทที่ตระหนักถึงความสําคัญและมีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริม รวมถึงการพัฒนาการดําเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง จัดโดยสถาบันธุรกิจเพื่อสังคม (CSRI) ภายใต้การดําเนินงานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556
    • บริษัทฯ ได้รับรางวัลดีเด่น ด้านการจัดทํา "รายงานความยั่งยืน ปี 2556 หรือ Sustainability Report Award 2013" จากสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และสถาบันไทยพัฒน์ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2556
  • ปี 2557
    • ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 3/2557 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2557 ของบริษัท พริซึ่ม โซลูชั่นส์ จํากัด มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนชําระเต็มเป็นเงิน 15,000,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จํานวน 70,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ หุ้นละ 100 บาท เป็นเงิน 7,000,000 บาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของบริษัทย่อย โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น 60:40
    • บริษัทฯ ได้รับรางวัล CSR Recognition 2014 (ปีที่ 3 ติดต่อกัน) ประเภทรางวัลทั่วไป เป็นรางวัลที่บริษัทฯ ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดําเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน จากสถาบันธุรกิจเพื่อสังคม(CSRI) ภายใต้การดําเนินงานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2557
  • ปี 2558
    • บริษัทฯ ได้รับรางวัล ESG 100 Certificate จากสถาบันไทยพัฒน์ ในฐานะที่เป็น 1 ใน 100 บริษัทจดทะเบียนจากการคัดเลือกทั้งหมด 567 บริษัทจดทะเบียน ที่มีความโดดเด่นในการดําเนินธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล
    • บริษัทฯ ได้รับรางวัล Thailand Sustainability Investment 2015 เป็นรางวัลที่มอบให้แก่องค์กรที่ดําเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยซินเน็ค เป็น 1 ใน 51 บริษัทจดทะเบียนที่ได้รับรางวัล “หุ้นยั่งยืน” ถือเป็นหุ้นที่มีคุณภาพและคาดหวังผลตอบแทนที่ต่อเนื่องในระยะยาว ได้ผ่านเกณฑ์การประเมินด้านความยั่งยืนและดําเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและบรรษัทภิบาล พิจารณารางวัลโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2558
  • ปี 2559
    • บริษัทฯ เข้าถือหุ้นในบริษัทย่อยเป็นร้อยละ 99.99 โดยในระหว่างเดือนมีนาคม 2559 ผู้ถือหุ้นบริษัทย่อยได้ยกเลิกบันทึกข้อตกลงร่วมทุนและได้ทําสัญญาโอนหุ้นหลายฉบับกับบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งมีผลทําให้ส่วนได้เสียของบริษัทฯ ในบริษัทย่อยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 95 และต่อมาในระหว่างเดือนมิถุนายน 2559 บริษัทฯ ได้ซื้อส่วนได้เสียในบริษัทย่อยเพิ่มเติมร้อยละ 5 เป็นเงินสดจํานวน 0.40 ล้านบาท มีผลทําให้ส่วนได้เสียของบริษัทฯ ในบริษัทย่อยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 99.99
    • บริษัทฯ ได้รับรางวัล ESG 100 Certificate ประจําปี 2559 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน จากสถาบันไทยพัฒน์ ในฐานะเป็น 1 ใน 100 บริษัทจดทะเบียนคุณภาพ และเป็น 1 ใน 9 บริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี จากการคัดเลือกทั้งหมด 621 บริษัทจดทะเบียนที่มีผลการดําเนินงานโดดเด่นทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล
    • บริษัทฯ ได้รับการจัดลําดับ CG Scoring อยู่ในระดับดีมาก (4 ตราสัญลักษณ์) จากผลสํารวจการกํากับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)
  • ปี 2560
    • วันที่ 17 เมษายน 2560 บริษัทฯ เข้าร่วมทุนกับบริษัท พี ที ออโตเมชั่น (ไทยแลนด์) จํากัด ซึ่งดําเนินธุรกิจเป็นตัวแทนจําหน่ายและนําเข้าอุปกรณ์สินค้าประเภท Industrial Grade เพื่อการขยายและเพิ่มศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ โดยมีสัดส่วนการร่วมทุนคิดเป็นร้อยละ 50
    • วันที่ 26 มิถุนายน 2560 บริษัทฯ เข้าร่วมลงทุนโดยการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท บัฟ (ประเทศไทย) จํากัด ในสัดส่วนร้อยละ 30 เพื่อเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ไปสู่ธุรกิจเช่าซื้อเพื่อต่อยอดการทําธุรกิจแบบครบวงจร
  • ปี 2563
    • บริษัทฯ มีสัดส่วนการถือหุ้นในของ บริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (NCAP) คิดเป็นร้อยละ 26.67 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญ ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563
  • ปี 2564
    • วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัท ชินเน็ค อินคิวท์เบชั่น จำกัด ทุนจดทะเบียน 100,000,000 บาท มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียน และชำระแล้ว เพื่อดำเนินกิจกรรมการลงทุนในธุรกิจ ที่มีศักยภาพหรือธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัล
    • วันที่ 1 มิถุนายน 2564 บริษัท ซินเน็ค อินคิวท์เบชั่น จำกัด (บริษัทย่อย) เข้าร่วมลงทุนในบริษัท สวอป มาร์ท จำกัด ทุนจดทะเบียน 50,000,000 บาท มีสัดส่วนการถือหุ้น ร้อยละ 60.00 เพื่อดำเนินธุรกิจ ในรูปแบบแพลต ฟอร์มดิจิทัล
    • บริษัท พริซึ่ม โซลูชั่นส์ จำกัด (บริษัทย่อย) ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "บริษัท เซอร์วิส พอยท์ จำกัด" เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564
  • ปี 2565
    • เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565 บริษัท ชินเน็ค อินคิวท์เบชั่น จำกัด (บริษัทย่อย) ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 100,000,000 บาท เป็น 255,000,000 บาท (มูลค่าหุ้นละ 100 บาท) เพื่อรองรับการขยายการ ลงทุน บริษัทได้ลงทุนในหุ้นดังกล่าวเต็มจำนวน และยังคงมีอำนาจ การควบคุมในบริษัทย่อยนั้นไม่เปลี่ยนแปลง
    • เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2565 บริษัท เซอร์วิส พ้อยท์ จำกัด (บริษัทย่อย) ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 15,000,000 บาท เป็น 115,000,000 บาท (มูลค่าหุ้นละ 100 บาท) บริษัทได้ลงทุน ในหุ้นดังกล่าวเต็มจำนวน และยังคงมีอำนาจการควบคุมในบริษัทย่อยนั้น ไม่เปลี่ยนแปลง
    • เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565 บริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (บริษัทร่วม) ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเป็นจำนวน 255,000,000 บาท โดยจัดสรรแก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน บริษัทได้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว จำนวน 124.17 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 4.5 บาท เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 558.77 ล้านบาท ทำให้กลุ่มบริษัทมีส่วนได้เสียในบริษัทนี้ เพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 26.67 เป็นร้อยละ 26.98
    • เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 บริษัท ชินเน็ค อินคิวท์เบชั่น จำกัด (บริษัทย่อย) ได้เข้าลงทุนในบริษัท ไชเบอร์ตรอน จำกัด ในอัตราร้อยละ 25 ของทุนที่ออกและชำระแล้ว เป็นจำนวนเงิน 55 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจด้านการให้บริการด้านเฝ้าระวังภัยคุกคามทางด้านไซเบอร์ และความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
    • บริษัทฯ ได้รับการประกาศรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment :THSI ประจำปี 2565 เป็นปีที่ 5 ที่ผ่านการคัดเลือกการ ประเมินด้านความยั่งยืน สิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ รวมถึง บรรษัทภิบาล ถือเป็นหุ้นที่มีคุณภาพและคาดหวังผลตอบแทนที่ต่อเนื่อง ในระยะยาว พิจารณารางวัลโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
    • บริษัทฯ ได้รับรางวัล ESG 100 Certifcate จากสถาบัน ไทยพัฒน์ เป็นปีที่ 8 ในฐานะที่เป็น 1 ใน 100 บริษัทจดทะเบียน ที่มีความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล
  • ปี 2566
    • บริษัทฯ ได้รับการประกาศรายชื่อเป็นหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ A (SET ESG Ratings : A) ประจำปี 2566 ในกลุ่ม Technology ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 จากตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย สะท้อนถึงการบริหารธุรกิจภายใต้นโยบายสู่ ความยั่งยืน ทั้งจากด้านสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, Governance: ESG) รวมถึงการคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน
    • บริษัทฯ ได้รับคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการที่ดี ประจำปี 2566 ในระดับดีเลิศ (Excellent) หรือระดับ 5 ดาว จากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน ประจำปี 2566 (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies 2023 :CGR) จัดโดยสมาคมส่งเสริมสถาบัน กรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.)
    • เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567 บริษัท ชินเน็ค อินคิวท์เบชั่น จำกัด ได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท อินฟินิท พาร์ทเนอร์ส จำกัด